ตำนานมังกรโบราณของชาวจีน
พอเอ่ยถึง
ประเทศจีนแล้ว สัญลักษณ์ของประเทศจีนสัญลักษณ์แรกที่พี่ปาล์มนึกออก ก็คือ
"มังกร" ค่ะ มังกรเป็นสัญลักษณ์ของความสง่างาม
เทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บันดาลโชคลาภและควรเคารพยกย่อง
ถึงขนาดจักรพรรดิของจีนก็มีสัญลักษณ์เป็นมังกรเลยนะคะ
วันนี้พี่ปาล์มมีตำนานมังกรจีนมาฝากค่ะ
ตำนานมังกรจีนโบราณมีอายุยาวนานกว่า 4,000 ปี
ซึ่งลักษณะรูปร่างของมังกรจีนนั้น
สุดแล้วแต่นักวาดรูปจะจินตนาการเสริมแต่งออกมา
การขายจินตนาการของนักวาดรูปจะเขียนมังกรออกมาโดยยึดลักษณะรูปแบบที่เล่าต่อ
ๆ กันมาคือ มังกรจีนจะมีลักษณะลำตัวที่ยาวเหมือนงู มีเกล็ดสีเขียว
นัยน์ตาสีแดง มีหนวดและเขาอย่างละคู่ มีขา 4 ขา
และกงเล็บที่แข็งแรง
มังกรจีนโบราณถูกยกย่องว่าเป็นสัตว์เทพเจ้าซึ่งชาวจีนเคารพนับถือ
เป็นสัตว์พาหนะของเทพเจ้าในลัทธิเต๋า
ทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองปราสาทราชวังของเทพเจ้าบนสวรรค์
มังกรจีนที่มีกงเล็บ 5 เล็บ
ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งจักรพรรดิหรือฮ่องเต้ของจีนเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดม
สมบูรณ์ มังกรบางตัวจะถือไข่มุกเม็ดใหญ่อยู่ที่ขาหน้า
ครั้งหนึ่งคนเคยคิดว่าไข่มุกคือไข่ของมังกร มังกรบางชนิดวางไข่ในน้ำไหล
มังกร
จีนในตำนานนั้น
สามารถที่จะทำตัวเองให้มีขนาดใหญ่เท่ากับจักรวาลหรือมีขนาดเล็กเท่ากับหนอน
ไหมได้ และในบรรดาสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 ของ
จีน มังกรจีนถือเป็นสัตว์แห่งเทพเจ้า ได้รับความนับถือมากที่สุด
มังกรจีนมีลักษณะนิสัยที่เมตตากรุณา เป็นมิตร ทะเยอทะยาน และมองโลกในแง่ดี
นอกจากนี้ยังมีความฉลาด มีปัญญามาก มีความเด็ดขาด และมีพลัง
มังกรจีนจึงเป็นที่ปรึกษาของผู้นำในด้านต่าง ๆ แต่มังกรจีนมีทิฐิในตัว
จะถือตัวว่าถูกหมิ่นประมาทเมื่อผู้นำไม่ยอมทำตามคำแนะนำของมังกรจีน
หรือเมื่อผู้คนไม่ให้เคารพความสำคัญ มังกรจีนจะทำให้ฝนหยุดตก
หรือเป่าเมฆดำออกมาซึ่งจะนำพาพายุ และน้ำท่วมมาให้
มังกรตัวเล็กก็ทำเรื่องยุ่งยากเล็ก ๆ เช่นทำหลังคารั่ว
หรือทำให้ข้าวเกิดความเหนอะหนะ
มังกร
จริง ๆ ในปัจจุบันก็คือซากของไดโนเสาร์ยุคดึกดำบรรพ์ ซึ่งกลายเป็นหิน
ไข่ไดโนเสาร์ถูกค้นพบในหลายพื้นที่ในประเทศจีน
ซึ่งขึ้นชื่อว่ามีไดโนเสาร์มากที่สุดในโลกในสมัยโบราณใช้ในการประกอบเป็นยา
สมุนไพร เรียกกันว่า "ยากระดูกมังกร" ส่วนไข่ของมังกรจีนนั้นในสมัยเฉียนหลง ถือเอาไข่มังกรจีนเป็นเครื่องรางประจำราชสำนักภายในพระราชวังปักกิ่ง
ตามความเชื่อของชาวจีนโบราณนั้น จะมีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ 4 ชนิด คือ กิเลน หงส์ เต่า และมังกร โดยชาวจีนจะเชื่อถือกันว่ามังกรนั้น เป็นสัตว์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาสัตว์ทั้ง 4 ชนิดนั้น มังกรจีนหรือที่ชาวจีนเรียกกันว่า "เล้ง-เล่ง-หลง-หลุง" ซึ่ง
จะมีความแตกต่างกันไปตามลักษณะของการออกเสียงของในแต่ละท้องถิ่น
ชาวจีนถือว่ามังกรนั้นเป็นสัญลักษณ์ของพลัง อำนาจ ความยิ่งใหญ่ และเพศชาย
เนื่อง
จากมังกรจีนเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์
เป็นสัตว์แห่งเทพเจ้าในสรวงสวรรค์และเป็นตัวแทนของจักรพรรดิ
ผู้เป็นโอรสจุติมาจากสวรรค์
ชาวจีนจึงมีความเชื่อว่าหากผู้ที่ได้พบเห็นมังกร
จะถือว่าเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองมาก
ผู้ที่มีโอกาสจะได้ขี่หลังมังกรจะต้องเป็นคนมีศีล มีสัตย์
มีจิตใจบริสุทธิ์ดีงาม ถึงจะมีมังกรมารับไปเป็นเซียนอยู่บนสวรรค์
ในสมัยโบราณนั้นชาวจีนได้มีการจัดทำ ตำรามังกร ขึ้นมา
ซึ่งเป็นการรวบรวมในรายละเอียดส่วนของประวัติ
เผ่าพันธุ์และลักษณะของมังกรไว้อย่างละเอียดที่สุด
แต่เนื่องมาจากตำราเหล่านั้นได้สูญหายไปตามกาลเวลาแล้ว
การศึกษาเรื่องของมังกรจีนในปัจจุบัน
จึงเป็นเพียงแค่การศึกษาจากหลักฐานต่าง ๆ
ที่ยังคงหลงเหลืออยู่และจากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ชาวจีนเท่านั้น
ตาม
ตำนานในสมัยโบราณของจีน มี เจ้าแม่นึ่งออ หรือ หนี่วา มีลักษณะลำตัวเป็นคน
แต่หัวเป็นงู ซึ่งในบางตำราก็มีการบอกต่อ ๆ
กันมาว่าว่ามีลำตัวตัวท่อนบนเป็นคน แต่ท่อนล่างเป็นงู
เมื่อเจ้าแม่นึ่งออสิ้นอายุไข นางได้ตายไปแล้วเป็นเวลา 3 ปี แต่ศพของนางกลับไม่เน่าเปื่อย และเมื่อมีคนลองเอามีดผ่าท้องของนางดู ก็ปรากฏมีมังกรเหลืองตัวหนึ่งพุ่งออกมาแล้วเหาะขึ้นฟ้าไป
ตามตำราดึกดำบรรพ์ของจีนกล่าวกันว่า มังกรจีนนั้น ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในสมัยของ พระเจ้าฟูฮี,ฟูซี หรือฟูยี (หรือเมื่อประมาณ 3,935 ปีก่อนพุทธกาล) มี
ตำนานกล่าวกันไว้ว่า
มีมังกรอยู่ตัวหนึ่งเป็นเจ้าเหนือน่านน้ำทั้งปวงเป็นระยะเวลาหลายพันปี
ซึ่งแท้จริงแล้วมังกรตัวนั้นก็คือ พระเจ้าฟูฮี แปลงร่างนั่นเอง
พระเจ้าฟูฮีนั้นป็นผู้ที่มีความสามารถเป็นอย่างมาก
ทรงคิดประดิษฐ์ของหลายสิ่งหลายอย่าง เช่น "โป๊ย-ก่วย" หรือ ยันต์แปดทิศ อีกทั้งยังทรงเป็นผู้กำหนดการที่ให้ชายหญิงมีการหมั้นหมายกันเป็นคู่ครองอีกด้วย
ในหนังสือประวัติวัฒนธรรมจีนได้กล่าวกันไว้ว่า มังกรนั้นได้ถือกำเกิดขึ้นในสมัยพระเจ้าอึ่งตี่ พระเจ้าอึ่งตี่, อึ้ง
ตี่ หรือหวงตี้ ทรงเป็นกษัตริย์ผู้ที่รวบรวมแผ่นดินจีนไว้เป็นผืนเดียวกัน
โดยพระองค์ได้ทรงสร้างจินตนาการรูปมังกรขึ้นมา
จากการรวมสัญลักษณ์ของเผ่าต่าง ๆ
โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้มังกรกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ว่าเผ่าต่าง ๆ
ได้รวมกลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้ว
ตามตำนานกล่าวไว้ว่าเมื่อพระเจ้าอึ่งตี่สิ้นอายุขัย
ก็มีมังกรจากฟ้าลงมารับพระองค์และพระมเหสีขึ้นไปเป็นเซียนบนสวรรค์
โดยบางตำราได้กล่าวว่าพระองค์นั้นเป็นหวงตี้องค์เดียวกับที่ได้เป็นเจ้า
สวรรค์ หรือเง็กเซียนฮ่องเต้ในเวลาต่อมา
เพราะเหตุนี้ชาวจีนจึงถือว่ามังกรเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์และเป็นเจ้าแห่ง
สัตว์ทั้งปวง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น